ราคาหุ้นขวัญใจ"เม่า"อย่าง TRUE บวกแรงแบบไม่มีเหตุผลอีกแล้ว ... แต่เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นลักษณะปกติของหุ้นตัวนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะคติที่ว่า "งบดีให้ขาย งบวอดวายต้องรีบซื้อ" ดูจะยังใช้ได้ดีกับ TRUE เหมือนเดิม ราวกับว่าไม่มีหุ้นสื่อสารที่ดีกว่านี้ในตลาดหุ้นอีกแล้ว ซึ่งงบปีนี้ และปีหน้าก็มีโอกาสจะขาดทุนแบบหนักๆ ให้ได้ชมอย่างแน่นอน
*** ราคาหุ้นบวกสวนกลุ่ม สะท้อนว่าไม่มีปัจจัยหนุนหุ้นสื่อสารแน่นอน
ความพิศวงของหุ้น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ก็คือ ราคาหุ้นที่มักจะเพิ่มขึ้นอย่างแรงแบบไม่มีเหตุผลรองรับอยู่บ่อยๆ ก่อนที่ราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงแบบเงียบๆในภายหลัง อย่างเช่นวันทำการล่าสุด(21พ.ค.63) ที่ราคาหุ้นขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวันถึง 3.72 บาท ทำนิวไฮรอบ 3 เดือน ไปได้อย่างสวยงาม และปิดตลาดไปในระดับเดียวกัน คิดเป็นเพิ่มขึ้น 0.32 บาท หรือ +9.41% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น +475.72% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า
แต่สิ่งที่ตอกย้ำว่าไม่น่ามีปัจจัยหนุนให้กับหุ้นกลุ่มสื่อสารในขณะนี้แน่นอน ก็คือ ราคาหุ้นที่สวนทางกับหุ้นในกลุ่มอย่าง ADVANC และ DTAC นั่นเอง โดยที่ ADVANC วันนี้ปรับตัวขึ้นได้เพียง +0.26% เท่านั้น ขณะที่ DTAC อาการหนัก ปิดร่วง -2.31% ซึ่งปริมาณการซื้อขายของหุ้นทั้งสองตัวก็อยู่ในระดับการซื้อขายปกติ
และถ้าหาก TRUE มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวอยู่จริงแต่ยังไม่ออกสู่สายตานักลงทุนนั้น ปัจจัยบวกนี้ก็ต้องมีนัยสำคัญมากจึงจะทำให้ราคาหุ้นปรับขึ้นได้เช่นนี้ .. เพราะหากไม่มีอะไรในก่อไผ่จริงๆ เจ็บหนักแน่ ! เพราะผลงานยังทรุดตัวต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปีนี้
*** ฐานะการเงินอ่อนแอมาก D/E พุ่งเป็น 2.3 เท่า
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่าไตรมาส 1/63 ผลประกอบการ TRUE ออกมาขาดทุนสุทธิไปถึง 161 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น และต้นทุนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายโครงข่าย ซึ่งทำให้การเงินของ TRUE อ่อนแอ อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนเพิ่มขึ้นมาเป็น 2.3 เท่า จากเพียง 1.2 เท่าในไตรมาส 4/62
ซึ่งบริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ ระบุว่า สาเหตุที่หนี้สินเพิ่มขึ้นมาจากการที่บริษัทออกหุ้นกู้ 3.7 หมื่นล้านบาทไปเมื่อปลายปี 62 และมีเงินกู้ใหม่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 1/63 เพื่อนำไปชำระค่าใบอนุญาต ประกอบกับส่วนของทุนที่ลดลง ดังนั้นผลประกอบการที่มีแนวโน้มจะขาดทุนต่อเนื่องอีก น่าจะทำให้ TRUE มียอดเงินกู้เพิ่มขึ้นเพื่อชำระให้เจ้าหนี้การค้าที่ครบกำหนดในปีนี้ ดังนั้นสถานะการเงินจะยิ่งอ่อนแอมากขึ้นอีก
*** ต่อไปลำบาก เพราะหลังจากนี้ขาดทุนอย่างเดียว!
สิ่งที่นักลงทุนควรรู้ไว้คือ สถานะการเงินที่อ่อนของ TRUE ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ และหลังจากนี้ผลประกอบการก็จะมีแววขาดทุนต่อไปอีกหลายปี ซึ่งนานๆ เข้าอาจจะก่อเป็นปัญหาขนาดใหญ่ขึ้นมาได้
โดยที่บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ตั้งแต่ไตรมาส 2/63 TRUE จะต้องเจอแรงกดดันทั้งจากโควิด-19 มาตรการสนับสนุนค่าโทรฟรี รวมไปถึงต้นทุนภาระคลื่น 2600 MHz เต็มไตรมาส และ 700 MHz ตั้งแต่ไตรมาส 4/63 รวมถึงมีต้นทุนในการลงทุนโครงข่าย 4G, 5G เพื่อแข่งขันกับ ADVANC ที่ยังเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ TRUE ต้องก่อหนี้เพิ่มเพื่อมาลงทุน นำมาซึ่งภาระดอกเบี้ยที่หนักขึ้น ท้ายที่สุดภาระดอกเบี้ยก็จะมีแนวโน้มสูงกว่ากำไรจากการดำเนินงาน โดยที่กระแสเงินสดส่วนใหญ่ต้องใช้รองรับภาระเงินทุนหมุนเวียน
ดังนั้นการฟื้นตัวที่จำกัดมาก จึงทำให้ผลประกอบการในปี 63 จะขาดทุนสูงขึ้นเป็น 2,961 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิในระดับใกล้เคียงกันที่ 3,012 ล้านบาทในปี 64
ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ทั้งหมดมองไปในทางเดียวกัน มีเพียงประมาณการขาดทุนสุทธิที่ไม่เท่ากัน ดังนี้
บล. |
ขาดทุนสุทธิ |
ปี 63 |
ปี 64 |
เอเซีย พลัส |
-2,961 |
-3,012 |
บัวหลวง |
-769 |
-760 |
เคจีไอ |
-2,396 |
-1,125 |
หยวนต้า |
-1446 |
+275 |
*** ยังมีนักวิเคราะห์ที่มองว่า TRUE ยังรุ่ง
บล.หยวนต้า เป็นหนึ่งในโบรกเกอร์ที่มองว่า TRUE ยังมีโอกาสกลับมาทำกำไรได้ในปี 64 หากอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัว และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างเป็นรูปธรรม แม้ในระยะนี้จะมองว่าการฟื้นตัวจะจำกัดมาก ปันผลไม่มีนัย หนี้ที่สููง อยู่ก็ตาม แนะนำ "เก็งกำไร" ราคาเหมาะสม 3.80 บาท
อย่างไรก็ดี บล.ยูโอบี เคย์เฮียน กลับมองว่าไตรมาส 2/63 จะเป็นจุดต่ำสุดของ TRUE ก่อนที่ในช่วงที่เหลือของปีจะมองว่า ลูกค้า 4G ของ DTAC และลูกค้าใหม่จะย้ายค่ายมาใช้บริการ TRUE จำนวนมากจากอานิสงส์ของ 5G ทำให้ปี 63 จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 343 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1,737 ล้านบาทในปี 64
และแนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสมสูงถึง 5 บาท แต่สิ่งที่ควรระวังก็คือ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ไม่ได้ระบุถึงปัญหาสถานะการเงิน และภาระดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นเอาไว้เลย
ขณะที่รายอื่นมีให้คำแนะนำไว้ดังนี้
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม(บ.) |
หยวนต้า |
เก็งกำไร |
3.80 |
เคจีไอ |
ขาย |
3.60 |
เอเซีย พลัส |
เปลี่ยนตัว |
3.30 |
ไทยพาณิชย์ |
ถือ |
3.10 |
บัวหลวง |
ถือ |
3.00 |
*** สิ่งเดียวที่ทำให้ TRUE น่าลงทุนก็คือเทคนิค
บล.กสิกรไทย ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า ราคาหุ้น TRUE ได้ไต่ระดับขึ้นไปแถว 3.46 แล้วแกว่งตัวในช่องขนาน ตั้งหลักแถว 3.14 ล่าสุดดีดตัวเหนือกลุ่มเส้นค่าเฉลี่ย และทะลุเหนือช่องกรอบ พร้อม Vol ด้าน MACD วกตัวเหนือ Signal line หลังพักตัวในแดนบวก สะท้อนว่าโอกาสที่ราคาจะไต่ระดับเหนือกลุ่มเส้นเฉลี่ยขึ้นต่อ
โดยให้แนวต้านไว้ที่ 3.46, 3.58 และ 3.74 บาท ซึ่งก็เป็นบริเวณราคาปิดของวันทำการล่าสุดที่ 3.72 บาทนั่นเอง แนะนำ ซื้อเก็งกำไร และรับเพิ่มหากย่อมาแถว 3.3 โดยมีแนวรอขายทำกำไรอยู่แถว 3.58 และ 3.74 ขณะที่ ใช้การถดถอยหลุด 3.24 เป็น stop loss
ค่อนข้างแน่นอนอยู่แล้วว่า TRUE ไม่ได้ปรับขึ้นมาด้วยปัจจัยทางพื้นฐาน เพราะสิ่งที่รออยู่มีแต่ความมืดมิดด้วยผลประกอบการที่อาจขาดทุนติดต่อกันถึง 2 ปีติด โอกาสที่จะกลับมาเป็นหุ้นผลงานดีได้อีกครั้งจึงต้องฝากความหวังไว้กับ 5G และความก้าวหน้าของเทคโนโลยี IoT ที่อาจจะทำให้ปริมาณการใช้ดาต้าต่อคนเพิ่มขึ้นได้บ้าง
0 Response to "TRUE เทคนิคดี...แต่พื้นฐานปีนี้-ปีหน้ายังแย่! - efinanceThai"
Post a Comment