หลังจากที่ประกาศงบไตรมาส 2/63 ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด ราคาหุ้นก็ตอบรับด้วยการร่วงแรงลงไปทำนิวโลว์รอบ 3 เดือนทันที แต่สาเหตุหลักจริงๆ ส่วนใหญ่มาจากการหยุดดำเนินงานของกรมบังคับคดี ทำให้การขายทรัพย์ NPL หายไป ดังนั้นด้วยดีมานด์ที่อัดอั้นมาก่อนหน้า จะยิ่งมาประทุในไตรมาส 3/63 ทำให้ผลงานอาจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
*** BAM เจอเท ... ทำนิวโลว์รอบ 3 เดือน หลังแจ้งงบ
บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เปิดตลาดวันนี้ราคาหุ้นลงไปทำจุดต่ำสุดรอบเช้าที่ 23 บาท แตะระดับต่ำสุด(New low)ในรอบ 3 เดือนแทบจะในทันที ก่อนที่จะปิดตลาดรอบเช้าฟื้นมาที่ 23.30 บาท ลดลง 1.20 บาท หรือ -4.90% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 209.36% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า และมีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดของเช้าวันนี้ที่ 1,772.30 ล้านบาท
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นเป็นเช่นนี้ได้ก็คือ การประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/63 ที่ออกมาในวันศุกร์ที่ผ่านมามีกำไรสุทธิอยู่ที่เพียง 136 ล้านบาทเท่านั้น ลดลงถึง 82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY) และลดลง 80.54% จากไตรมาสก่อนหน้า(QoQ) ซึ่งถือว่าต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์กันไว้มากอีกด้วย
*** สาเหตุหลัก! กรมบังคับคดีหยุดดำเนินงาน ทำดีมานด์อั้น-ตั้งสำรองเพิ่มขึ้น
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)หยวนต้า ระบุว่า ประเด็นกดดันผลประกอบการ BAM ในไตรมาส 2/63 มีอยู่ 3 ประเด็นหลักๆ คือ
1)กำไรจากการให้สินเชื่อลูกหนี้ NPL ลดลง -13.5% YoY เพราะได้รับผลกระทบจากการประมูลขายทรัพย์ NPL ผ่านกรมบังคับคดีที่ลดลง เนื่องจากกรมบังคับคดีหยุดดำเนินงานในเดือน เม.ย. - พ.ค. แม้ในเดือนมิ.ย. จะกลับมาเปิดประมูลตามปกติและมียอดปิดประมูลสูงขึ้น แต่ยังไม่สามารถรับรู้การขาย NPL เข้ามาในงบการเงินได้ทันทั้งหมดในไตรมาส 2/63
2)กำไรจากการขายทรัพย์ NPA ลดลง -6.8% YoY ตามความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์มือสองที่น้อยลงในช่วงล็อคดาวน์ บวกกับการลดทำกิจกรรมทางการตลาดในเดือน เม.ย. - พ.ค.
3)มีการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากเป็นการตั้งสำรองในส่วนของรายได้ดอกเบี้ยค้างรับของลูกหนี้ NPL ที่รับรู้ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ และตั้งสำรองเพิ่มเติมตามภาวะเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น อย่างไรก็ดีปัจจัยลบต่างๆ บางส่วนถูกหักล้างด้วยการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างเข้มงวด รวมถึงการลดโบนัสพนักงาน จนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงไปราว 12% YoY
*** ดีมานด์อั้น นั่นหมายความว่า ... ไตรมาส 3/63 จะฟื้นแรง
บล.หยวนต้า ระบุต่อไปอีกว่า ด้วยดีมานด์ที่อั้นมาจากช่วงกรมบังคับคดีหยุดดำเนินงานเราคาด BAM จะมีการฟื้นตัวของกำไรโดดเด่นตั้งแต่ไตรมาส 3/63 เป็นต้นไป จาก 1) การรับรู้กำไรจากการให้สินเชื่อลูกหนี้ NPL ที่เร่งตัวขึ้นมาก หลังจากกรมบังคับคดีกลับมาเปิดประมูลขายทรัพย์ตามปกติ อีกทั้งคาดมีการรับรู้กำไรจากการประมูลขายทรัพย์ NPL ในงานมหกรรมขายทอดตลาดรอบใหญ่ร่วมกับกรมบังคับคดีในเดือน มิ.ย. ที่รับรู้ไม่ทันในงบไตรมาส 2/63
และ 2) คาดยอดขาย NPA จะเร่งตัวขึ้นหลังบริษัทเตรียมจัดมหกรรมลดราคาทรัพย์ NPA ครั้งใหญ่ภายใต้โปรโมชั่น “9 เดือน 9 ลดไม่ยั้งปังกว่าทุกแคมเปญ” กว่า 1,000 รายการ ซึ่งถือเป็นการเร่งระบายสต๊อกครั้งใหญ่ ด้วยการดำเนินกลยุทธ์ด้านราคา ซึ่งเป็นอีกความสามารถหลังปรับโครงสร้างสู่การเป็นบริษัทเอกชนเต็มตัว คาดจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดีเพราะดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำ และราคาอสังหาฯ มือหนึ่งเริ่มปรับตัวสูงขึ้นจากครึ่งแรกของปี จะช่วยหนุนยอดขาย NPA ขยับขึ้นต่อเนื่องทั้งในไตรมาส 3-4/63
โดยที่ บล.บัวหลวง ระบุว่า เราคาดก่าไรไตรมาส 3/63 ขยายตัว 32% YoY มาอยู่ที่ 1.16 พันล้านบาทหนุนโดยกิจกรรมการชำระหนี้และการตามเก็บหนี้ที่เพิ่มขึ้นหลังโครงการพักชำระหนี้ รวมถึงการตั้งส่ารองฯที่ลดลง เนื่องจากการคลายการปิดเมือง
*** ฟื้นแรงทั้งที ... กำไรสุทธิทั้งปีเป็นยังไง
แม้กำไรสุทธิในไตรมาส 3-4/63 จะกลับมาฟื้นตัว หลังจากผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/63 ไปแล้ว แต่ผลประกอบการที่ลดลง YoY มาตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี ทำให้นักวิเคราะห์เริ่มปรับลดผลประกอบการปี 63 ลง ดังนั้นจะทำให้ผลประกอบการทั้งปีลดลงอย่างมากจากฐานกำไรที่สูงมากในปี 62 แต่จะกลับมาฟื้นตัวแรงเท่าตัวในปี 64 โดยนักวิเคราะห์ประเมินกำไรสุทธิไว้ดังนี้
บล. |
กำไรสุทธิ |
ปี 63 |
ปี 64 |
เคทีบี |
2,320(-64.59%) |
4,670(+101%) |
หยวนต้า |
2,549(-61.07%) |
3,334(+30.79%) |
ทรีนีตี้ |
4,138(-36.81%) |
4,950(+19.62%) |
บัวหลวง |
4,911(-25.01%) |
5,999(+22.15%) |
*** หุ้นยังมีอัพไซด์ - DTA มูลค่า 5 พันลบ. เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญดันผลงาน
แม้นักวิเคราะห์จะทยอยปรับลดประมาณการกำไรปี 63 ลงไปหนักสุดถึงขนาดลดลง 64.59% จากปีก่อน แต่มุมมองในระยะยาวยังคงเป็นบวกโดยเฉพาะการกลับมาฟื้นตัวมีกำไรสุทธิทะลุ 4 พันล้านบาทไปได้อีกครั้ง ทำให้นักวิเคราะห์ยังไม่ปรับราคาเหมาะสมลง ดังนั้นราคาหุ้นในปัจจุบันจึงมีอัพไซด์
บล. |
คำแนะนำ |
ราคาเหมาะสม(บ.) |
บัวหลวง |
ซื้อ |
25.50 |
เคทีบี |
ถือ |
22 |
ทรีนีตี้ |
ซื้อ |
28.50 |
โนมูระ พัฒนสิน |
ซื้อ |
27.50 |
ยูโอบี เคย์เฮียน |
ซื้อ |
28 |
หยวนต้า |
ซื้อ |
29.50 |
ทั้งนี้ จากการสำรวจราคาเหมาะสม และประมาณการกำไรสุทธิของนักวิเคราะห์พบว่าส่วนใหญ่ยังไม่ได้นับรวมการรับรู้ผลประโยชน์ทางภาษีในส่วนของ DTA มูลค่ากว่า 5 พันล้านบาทเข้าไปด้วย ซึ่ง BAM ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะพยายามรับรู้เป็นกำไรให้ได้ทั้งหมดภายในปีนี้ ดังนั้นหากบริษัทสามารถรับรู้เป็นกำไรได้หมดตามที่วางแผนไว้ ราคาเหมาะสมและกำไรสุทธิอาจเพิ่มขึ้นจากประมาณการในปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ
สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่เคยมีหุ้น BAM มาก่อนนี่อาจเป็นจังหวะที่ดีในการเก็บหุ้นเพื่อลุ้นผลการดำเนินงานที่จะฟื้นตัวต่อเนื่องไปถึงปี 64 ดังนั้นสิ่งที่ควรรออีกหน่อยก็คือความชัดเจนที่ว่า การกลับมาเปิดกรมบังคับคดีแล้วแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 3/63 จะกลับมาเติบโต YoY ได้อย่างที่นักวิเคราะห์คาดกันไว้หรือไม่ เพราะหากกลับมาเติบโตจริง และได้แรงหนุนจากการบันทึกกำไร DTA เข้ามาอีก ก็น่าจะทำให้ราคาหุ้นดีดขึ้นไปได้ไม่ยากนัก...
0 Response to "BAM ที่เห็นว่างบแย่...อาจแค่ดีมานด์อั้น! - efinanceThai"
Post a Comment