เริ่มด้วยกราบสักการะ “องค์พระบรมธาตุแช่แห้ง” วัดพระบรมธาตุแช่แห้ง องค์พระธาตุสีทองสุกปลั่งตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ยๆ แต่ก็มองเห็นได้แต่ไกล ซึ่งตามบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ในอดีตนั้นได้สื่อสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างเมือง “น่าน” กับ “สุโขทัย” เอาไว้
องค์พระธาตุถูกบุด้วยทองเหลืองหมดทั้งองค์ มีความสูง 55.5 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างด้านละ 22.5 เมตร สันนิษฐานกันว่ามีอายุราว 600 ปี ถือเป็นโบราณสถานที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของล้านนา ทุกปีจะมีงานนมัสการพระบรมธาตุแช่แห้ง ระหว่างวันขึ้น 11 ค่ำถึง 15 ค่ำ เดือน 6 ทางเหนือ
ราวๆ...เดือนกุมภาพันธ์ หรือต้นเดือนมีนาคมของทุกปี
ทางเดินขึ้นพระธาตุจะเห็นเป็นตัวพญานาค หน้าบันเหนือประตูทางเข้าลักษณะเป็นลายนาคเกี้ยวเป็นเอกลักษณ์เฉพาะช่างฝีมือ...ศิลปะเมืองน่านโดยแท้ ชาวเมืองล้านนามีความเชื่อศรัทธากันว่า...หากได้ เดินทางไปสักการบูชา กราบไหว้องค์พระธาตุแช่แห้ง หรือเรียกกันว่า “การชูธาตุ” ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต
...จะทำให้ได้รับอานิสงส์อย่างแรงกล้า ทำให้ชีวิตอยู่ดีมีสุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บมาย่ำกราย อีกทั้งหน้าที่การงาน ธุรกิจลาภผลก็จักงอกเงย เห็นผลทันตาทันใจเลยทีเดียวก็ว่าได้
ถัดมา...กราบสักการะ โบสถ์สีทอง วัดศรีพันต้น เพิ่มศรัทธาให้เข้มขลังยิ่งขึ้นด้วยจิตรกรรมปูนปั้นพญานาคเจ็ดเศียร เฝ้าบันไดหน้าวิหารสีทองอร่าม นอกจากความสวยงามแล้วยังแฝงด้วยพลังอันยากอธิบาย
สาม...วัดสวนตาล วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองน่านมาร่วม 600 ปี เป็นที่ประดิษฐานของ “พระเจ้าทองทิพย์” พระประธานในวิหารหลังใหญ่ เป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยขนาดหน้าตักกว้าง 10 ฟุต สูง 14 ฟุต 4 นิ้ว โดยพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงชัยชนะ ที่พระองค์สามารถยึดเมืองน่านไว้ในพระราชอำนาจได้ ทุกๆ ปีช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์จะมีการจัดงานนมัสการและสรงน้ำ
ไฮไลต์สำคัญ...ห้ามพลาดแวะกราบสักการะขอพรเสริมสิริมงคล “พระศรีอริยเมตไตรย ปางนั่งพับเพียบ” องค์แรกที่พบในภาคเหนือ ประดิษฐานอยู่ที่วิหารหลังเล็กใกล้ๆ กับวิหารหลังใหญ่
แล้วก็มาถึง วัดภูมินทร์...วัดนี้ดังมากจากภาพกระซิบรักบันลือโลกปู่ม่านย่าม่าน ภาพจิตรกรรมฝาผนังสะท้อนวิถีชีวิตความเป็นอยู่บรรพบุรุษชาวน่าน มีคนบอกว่าหากใครที่มีศรัทธามาก...ให้ลองเดินเวียนสามรอบแล้วคอยดูว่าพระองค์ไหนยิ้มให้เรามากที่สุดก็ไปขอพรพระองค์นั้นได้หนึ่งข้อ เท็จจริงอย่างไรก็ไปพิสูจน์กันดู
นอกจากนี้ ยังมีความเชื่อสำคัญอีกว่า...ด้านนอกโบสถ์จะมีพญานาคสองตนพาดลำตัวผ่าน กล่าวกันว่าหากใครได้ลองลอดประตูใต้ท้องพญานาคนี้แล้วก็จะได้กลับมาเยือนเมืองน่านอีกครา
หรือ...บ้างก็ว่า คนที่ลอดจะได้เป็นเขย... สะใภ้เมืองน่านเลยก็มี
อันดับห้า...วัดกู่คำ พระธาตุอีกแห่งที่บรรจุพระเกศาธาตุและผ้าอาบน้ำทองคำของพระพุทธเจ้า พระธาตุกู่คำ อีกชื่อหนึ่งยังเรียกกันว่า... “พระธาตุกู้คำ” อันดับหก...วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร กราบสักการะพระพุทธรูปทองคำ ปางลีลา “พระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี” สร้างด้วยทองคำ 65% สูง 145 เซนติเมตร
อันดับเจ็ด...วัดหัวข่วง สักการะเจดีย์ทรงปราสาท ประดิษฐานพระพุทธรูป ปางมารวิชัยสำริด รายรอบมุมผนังสองข้างด้วยรูปปั้นเทวดายืนพนมมือท่ามกลางบรรยากาศสุดเข้มขลังแสนสงบเย็น
อันดับแปด...วัดมิ่งเมือง ที่ประดิษฐานเสาหลักเมืองจังหวัดน่าน หรือเดิมเรียกว่า “เสามิ่งเมือง” ซึ่งเป็นท่อนซุงขนาดใหญ่สองคนโอบ สูงราว 3 เมตร ฐานประดับไม้แกะลวดลายลงรักปิดทอง ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปพรหมพักตร์มีชื่อ...เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา...สักการะ ตัดเคราะห์ ต่อชะตา เสริมวาสนาบารมี
วัดสุดท้าย...วัดที่เก้า วัดพระธาตุเขาน้อย ตั้งอยู่บนดอยเขาน้อย สูงจากระดับน้ำทะเล 240 เมตร ทางขึ้นเป็นบันไดนาค 303 ขั้น...องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนทั้งองค์ เป็นศิลปะพม่าผสมล้านนา ภายในบรรจุพระเกศาธาตุ สันนิษฐานกันว่ามีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพระธาตุแช่แห้ง
กราบขอพร พระพุทธมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน แล้วก็สามารถชมวิวได้รอบเมืองน่าน
จบทริปบุญใหญ่ไหว้พระ 9 วัดเมืองน่านแล้ว กลับมาสู่ชีวิตจริง “ช่างวี่” บอกว่า ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ...ธุรกิจร้านอาบน้ำตัดขนสุนัขที่ทำไม่เงียบเหงาอีกแล้ว หลังจากซบเซามานานหลังโควิด-19 ระบาดหนัก
“ไหว้พระ 9 วัด”...หนุนนำ เสริมส่งมงคลให้กับชีวิต เฮงๆ ปังๆ สุขี...สุกขัง ตลอดปี...ตลอดไป
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก-ยม
"มองเห็นได้" - Google News
August 30, 2020 at 05:04AM
https://ift.tt/2QP5m29
ไหว้พระ 9 วัดเมืองน่าน หนุนดวงเสริมมงคลชีวิต - ไทยรัฐ
"มองเห็นได้" - Google News
https://ift.tt/2KEOqs2
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/2A5APrD
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ไหว้พระ 9 วัดเมืองน่าน หนุนดวงเสริมมงคลชีวิต - ไทยรัฐ"
Post a Comment