“พิธา” ชี้ ม็อบเยาวชน นิสิต นักศึกษา เป็นผลพวงความล้มเหลวจากอดีต อัดรัฐบาลต้องไม่เห็นประชาชนเป็นศัตรู ถึงเวลาต้องรับฟังและยอมรับความจริง ชง 5 ข้อ ทางออกประเทศ
วันที่ 23 ก.ค. 2563 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นผู้สรุปญัตติด่วน ขอให้สภาผู้แทนราษฎรรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และกลุ่มพลังทางสังคมคนหนุ่มสาวที่อยู่นอกรั้วสถาบันการศึกษา โดยกล่าวว่า ขณะนี้หลายจังหวัดทั่วประเทศไทยกำลังชุมนุมเรียกร้องเพื่ออนาคตที่ดีกว่านี้ของประเทศ ซึ่งข้อเรียกร้องขอเยาวชนเหล่านี้คือ รัฐบาลต้องรับฟังอย่างจริงใจ ต้องไม่มองพวกเขาเป็นศัตรู เป็นภัยคุกคาม ไม่ดูถูกว่าเป็นม็อบมุ้งมิ้ง และไม่ดูถูกโดยการบอกว่าโดนพรรคการเมืองไหนปั่นหัว และจริงๆ แล้วเยาวชนเหล่านี้เป็นผลพวงจากความล้มเหลวของพวกเรา ทำให้พวกเขาต้องมาใช้ชีวิตในประเทศไทยที่ไร้อนาคต ข้อเสนอของพวกเขาเข้าใจง่ายและไม่ได้เกินเลยไปจากวิกฤติเศรษฐกิจการเมืองที่ประเทศกำลังเผชิญอยู่ ภายใต้การบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
สิ่งที่เห็นได้ชัดมาตอนนี้คือการจงใจต่ออายุสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาล ที่ไม่ได้มีไว้เพื่อปราบโควิด-19 อีกทั้งในสังคมประชาธิปไตย รัฐมีหน้าที่คุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือประชาชนไม่ไว้ใจรัฐบาลของตัวเอง พวกเขากำลังสงสัยว่าวันใดจะถูกอุ้มหาย วันใดเจ้าหน้าที่จะมาเคาะประตูบ้าน วันใดจะถูกดำเนินคดี เพียงเพราะแสดงออกในสิ่งที่รัฐไม่อยากให้พูด ในสิ่งที่รัฐไม่อยากจะฟัง ส่วนเรื่องเศรษฐกิจนั้นก็แย่มาก่อนสถานการณ์โควิด-19 แต่โควิด-19 มาซ้ำเติมให้เป็นวิกฤติซ้อนวิกฤติ ประชาชนกำลังตกทุกข์ได้ยาก ชีวิตเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย นักศึกษาจบใหม่กว่า 4 แสนคนที่จะไม่มีงานทำ และจะมีคนจะตกงานสูงถึง 8.4 ล้านคน ประเทศไทยไม่ได้แค่อยู่กับที่ เรากำลังเดินถอยหลัง เยาวชนเหล่านี้ไม่มีแม้แต่เสรีภาพที่จะประกันอนาคตที่ดี ต้องเติบโตในสภาพสังคมที่คุณภาพชีวิตแย่ มันไม่น่าแปลกใจที่เยาวชนเหล่านี้กำลังต้องการทำให้อนาคตของตัวเองมั่นคงขึ้นและดีขึ้นกว่าทุกวันนี้
นายพิธา กล่าวต่อไปว่า ถึงที่สุดแล้วสิ่งที่เรียกว่ารัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ใช่รัฐธรรมนูญ แต่เป็นเพียงใบอนุญาตให้คณะรัฐประหารมานั่งบริหารประเทศนี้ต่อไปเรื่อยๆ นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สิ่งที่สังคมไทยต้องการคือข้อตกลงร่วมกันของทุกฝ่าย คือระบบการเมืองที่มีประสิทธิภาพและอำนาจสูงสุดเป็นของประชาชน เพื่อทำให้ประเทศนี้เดินไปข้างหน้าได้เสียที เป็นที่มาของข้อเสนอของพรรคก้าวไกล ที่จะไปสู่ทางออกของประเทศในเวลานี้ สิ่งที่ตนเองและพรรคก้าวไกลต้องการเสนอ คือ การกระทำที่เป็นรูปธรรมที่ต้องทำอย่างเร่งด่วน 5 ข้อ
1. ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเปิดพื้นที่ทางการเมือง หยุดกดทับสิทธิเสรีภาพประชาชน เพราะถ้ารัฐกดทับประชาชนไปเรื่อยๆ แบบนี้ วันหนึ่งสิ่งเหล่านี้จะระเบิดออกมา
2. ทบทวนการดำเนินคดีที่เป็นคดีทางการเมืองที่ผ่านมาทั้งหมด หยุดปิดปากนักศึกษาและประชาชนที่ออกมาแสดงความคิดเห็น การดำเนินคดีไม่ใช่ทางออกของปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น
3. รัฐบาลควรหยุดคุกคามเยาวชนและครอบครัว หยุดคุกคามในสถานศึกษา รวมถึงหยุดใช้ปฏิบัติการข่าวสารที่ยุยงปลุกปั่นให้สังคมมีความขัดแย้ง สร้างกระแสความเกลียดชังในประชาชนกันเอง ซึ่งจะทำให้สังคมแตกหักมากขึ้นไปเรื่อยๆ
4. ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าล้มเหลวเพียงใด ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ควรหลีกทาง
5. ต้องเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ซึ่งมาจากประชาชนที่แท้จริง ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเขียนกติกาสูงสุดของประเทศ พรรคก้าวไกลเสนอให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน และไม่ต้องกำหนดวุฒิการศึกษาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เปิดให้ผู้มีอายุตั้งแต่ 18 ปี เป็น สสร. ได้ นี่เป็นบันไดขั้นแรกที่จะเป็นทางออกของประเทศไทยในตอนนี้
“ผมไม่แน่ใจว่า ถึงวันนี้พวกเราและสังคมไทยทั้งหมดพร้อมหรือต้องการที่จะรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่จริงๆ หรือไม่ ผมคิดว่าถึงเวลาแล้วที่เราควรหยุดแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นสิ่งที่ไม่อยากเห็น เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่า นอกเหนือจากข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ของกลุ่มเยาวชนนั้น ในการชุมนุมหลายครั้งที่ผ่านมา รวมถึงการแสดงออกในโลกออนไลน์ ยังมีเยาวชนและประชาชนอีกมากมาย ที่ได้แสดงออกถึงประเด็นอื่นๆ ที่เป็น Inconvenient Truth หรือความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนใจสำหรับสังคมไทย ไม่ว่าเราจะชอบใจหรือไม่ชอบใจ ถึงเวลาที่เราต้องยอมรับว่า ความจริงอันน่ากระอักกระอ่วนใจเหล่านั้นเป็นความรู้สึกแห่งยุคสมัย เป็นผลผลิตของปัญหาที่พวกเราล้วนมีส่วนร่วมสร้างขึ้นมาและหมักหมมเอาไว้ให้ลูกหลาน
ถ้าพวกเราพร้อมและต้องการที่จะรับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่จริงๆ ผมขอเชิญชวนให้ตั้งสติเสียใหม่ เปิดใจ ปรับมุมมอง แล้วลงมือหาทางออกของประเทศไปด้วยกัน แต่ถ้าเราไม่พร้อม เราก็จะมองเห็นเพียงแค่ว่า ผู้เป็นอนาคตของชาติเหล่านั้นเป็นภัยต่อความมั่นคง เช่นนั้นประเทศก็จะไม่มีทางออก ไม่มีอนาคต เพราะพวกเราช่วยกันฆ่าอนาคตของประเทศด้วยมือของพวกเราเองแล้ว”
อ่านเพิ่มเติม...
"มองเห็นได้" - Google News
July 23, 2020 at 06:06PM
https://ift.tt/30DIcQL
ม็อบเยาวชนผลพวงความล้มเหลวในอดีต “พิธา” อัดรัฐอย่ามองคนเห็นต่างเป็นศัตรู - ไทยรัฐ
"มองเห็นได้" - Google News
https://ift.tt/2KEOqs2
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/2A5APrD
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ม็อบเยาวชนผลพวงความล้มเหลวในอดีต “พิธา” อัดรัฐอย่ามองคนเห็นต่างเป็นศัตรู - ไทยรัฐ"
Post a Comment