Search

STGT ราคาขนาดนี้...ยังถูกอยู่อีกเหรอ? - efinanceThai

taiso.prelol.com
STGT ราคาขนาดนี้...ยังถูกอยู่อีกเหรอ?

หุ้นเด่นวันนี้

STGT ราคาขนาดนี้...ยังถูกอยู่อีกเหรอ?

วันนี้ราคาหุ้น STGT ดีดขึ้นมาอีกรอบ รับประเด็นบวก "กองทุนยักษ์ใหญ่จากมาเลฯ" ตัดสินใจเข้าเก็บหุ้นเพิ่มอีก ทำให้นักลงทุนที่กลัวตกรถรีบเก็บหุ้นเข้าพอร์ต มิหนำซ้ำนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังมองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันถือว่าถูกเกินไปเมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมที่ 82.40-116 บ. อีกด้วย 


แต่ราคาขนาดนี้ยังถือว่าถูกอยู่จริงๆหรือ? แล้วหลังวัคซีนโควิด-19 ออกสู่สายตาชาวโลก กำลังผลิตถุงมือยางจะว่างลงไปทันทีหรือไม่? ต้องติดตาม!


*** กองทุนมาเลฯเก็บหุ้น STGT เพิ่ม ดันราคาหุ้นผงกหัวขึ้นอีกรอบ


ราคาหุ้น บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT วันนี้เปิดตลาดดีดทันที ขึ้นมาทำจุดสูงสุดรอบเช้าไปที่ 75.50 บาท หลังจากเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ราคาหุ้นเพิ่งปรับตัวเป็นขาลงไปแตะ 65 บาท โดยราคาหุ้นปิดตลาดรอบเช้าไปที่ 72.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท หรือ 8.21% พร้อมปริมาณการซื้อขายคึกคักเพิ่มขึ้นถึง 294.33% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า


สาเหตุที่ราคาหุ้นวันนี้ดีดขึ้นมาก็คือ นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ STGT ที่วานนี้ออกมาเปิดเผยว่า กองทุน EMPLOYEES PROVIDENT FUND จากประเทศมาเลเซีย ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทเพิ่มอีกจนมีสัดส่วนถือหุ้นในปัจจุบันอยู่ที่ 73 ล้านหุ้น หรือ 5.1085%


ประเด็นนี้ทำให้นักลงทุนหันมาเก็บหุ้น STGT กันแทบจะทันที เพราะจากเดิมที่มีทัศนคติว่าราคาหุ้นของ STGT ซื้อขายกัน "เกินมูลค่า" ไปไกลมากแล้ว  แต่ในเมื่อกองทุนขนาดใหญ่ยังตัดสินใจที่จะทุ่มลงทุนในหุ้นตัวนี้อยู่ นั่นหมายความว่าหุ้นตัวนี้้ยังมีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนได้อีก และต้องมีศักยภาพบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ?


*** โบรกฯ ยันราคาหุ้นในปัจจุบันยังถูก


บริษัทหลักทรัพย์(บล.)หยวนต้า ระบุว่า STGT ที่ราคา 75 บาท ยังมี Upside gain ถึง 30.7% สะท้อนว่าราคาหุ้นยัง Undervalue เพราะก่อนหน้าราคาปรับตัวลงมากเกินกว่าที่ควรจะเป็น สวนทางกับคำสั่งซื้อที่ยังแน่น ปัจจุบันซื้อขายที่ PER63 - 64 ต่ำเพียง 18.1 เท่า และ 13.8 เท่าตามลำดับ แม้ว่าจะมีการทยอยเพิ่มกำลังการผลิตต่อเนื่องโดยคำสั่งซื้อถุงมือยางแบบไม่มีแป้ง(NR) เต็มกำลังการผลิตไปถึงสิ้นปี 2564 (สั่งวันนี้ต้องรอสินค้า 16 เดือน) และถุงมือยางสังเคราะห์(NBR) เต็มกำลังการผลิตถึงกลางปี 2565 (สั่งวันนี้ต้องรอสินค้า 22 เดือน)


แม้ว่าจะมีรายงานข่าวความคืบหน้าการผลิตวัคซีนออกมาเป็นระยะ แต่ปัจจุบันยังไม่มีการขอยกเลิกคำสั่งซื้อหรือต่อรองราคาจากลูกค้าแต่อย่างใด เพราะยังเป็นสินค้าที่ผลิตไม่พอกับความต้องการ เราจึงยังมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการถึงสิ้นปี 2564 จากเดิมถึงไตรมาส 2/64


ทั้งนี้ จากการสำรวจของผู้สื่อข่าวพบว่านักวิเคราะห์ให้ราคาเหมาะสมหุ้น STGT ไว้สูงมาก ทำให้ราคาหุ้นในปัจจุบันถือว่าต่ำกว่าราคาเหมาะสมไปมากอีกด้วย โดยที่ราคาเหมาะสมของนักวิเคราะห์แต่ละรายเป็นดังนี้

บล. คำแนะนำ ราคาเหมาะสม(บ.)
กรุงศรี ถือ 82.40
โนมูระ พัฒนสิน ซื้อ 89
ทิสโก้ - 97
หยวนต้า ซื้อ 98
เคทีบี ซื้อ 116


*** ดีมานด์ยังโต..กำลังผลิตกำลังมา แต่ว่าหลังจากนั้นล่ะ?


ปัญหาที่คาใจนักลงทุนอย่างมาก ก็คือ โควิด-19 ที่ทำให้ดีมานด์ถุงมือยางเติบโตเช่นนี้ ควรจะเป็นแค่ปัจจัยชั่วคราวเท่านั้น แต่บริษัทกลับตัดสินใจลงทุนเพิ่มกำลังผลิต และลงทุนโรงงานอย่างต่อเนื่องเพื่อไปตอบรับกับดีมานด์ที่เป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว


แผนเพิ่มกำลังผลิตของบริษัทเป็นดังนี้ (บริษัทอาจปรับแผนเร่งลงทุน)

กำลังผลิตต่อปี ความต้องการในตลาดโลก
ปี 63 32,619 ล้านชิ้น *360,000 ล้านชิ้น (+20%YoY)
ปี 65 45,000 ล้านชิ้น n/a
ปี 67 50,000 ล้านชิ้น n/a
ปี 71 70,000 ล้านชิ้น n/a
ปี 75 100,000 ล้านชิ้น n/a

*ประเมินโดยสมาคมถุงมือยางมาเลเซีย(MARGMA)


ในความคิดของนักลงทุนจึงมองว่าหากโควิด-19 จบลง ดีมานด์ถุงมือยางจะถึงกาลอวสานทันที นอกจากจะทำให้รายได้ไม่เติบโตแล้ว ค่าเสื่อมและต้นทุนคงที่จากโรงงานและเครื่องจักรที่เพิ่มเข้าไปก่อนหน้าจะย้อนกลับมาเป็นภาระอันหนักอึ้งให้กับบริษัทจนย่ำแย่อีกด้วย แต่ความจริงอาจไม่เป็นอย่างนั้น!


หากอิงกับสถิติจาก MARGMA ในช่วงที่ผ่านมา ปี 45-46 ซึ่งเป็นช่วงที่โรคซาร์สระบาด ดีมานด์ถุงมือยางในตลาดโลกเพิ่มขึ้น จาก 84,000 ล้านชิ้นในปี 2545 มาเป็น 92,000 ล้านชิ้นในปี 2546 (+10%YoY) แต่หลังจากโรคซาร์สจบลงปี 2547 ดีมานด์ถุงมือยางยังเติบโตต่อเนื่องอีก  +2% YoY


อีกกรณีหนึ่งคือ H1N1 ในปี 2551 - 2552 ดีมานด์ถุงมือยางเติบโตจาก 124,000 ล้านชิ้น > 140,000 ล้านชิ้น +13% YoY แต่หลังจาก H1N1 จบลง ดีมานด์ของถุงมือยางในปี 2553 ยังโตมาอยู่ที่ 150,000 ล้านชิ้น +7% YoY และเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี มาตั้งแต่ปี 2553 ถึงปี 2562 ที่ 298,000 ล้านชิ้น


*** ไม้ตายสุดท้าย คือ "การตลาด"


นักลงทุนอาจไม่ทราบว่าข้อได้เปรียบของผู้ผลิตถุงมือยางในประเทศไทยก็คือ ไทยเราเป็นผู้ปลุกยางพารามากที่สุดในโลก ข้อได้เปรียบแรกของเราก็คือ โรงงานที่อยู่ใกล้แหล่งวัตถุดิบยิ่งทำให้ต้นทุนการขนส่งถูกกว่าคู่แข่งในประเทศมาเลซียที่ต้องนำเข้าน้ำยางจากไทยไป


ดังนั้นด้วยราคาถุงมือยางที่ผู้ผลิตแต่ละรายต้องรักษาไว้ให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน STGT จึงอาจใช้กลยุทธ์ด้านราคา เพื่อแย่งมาร์เก็ตแชร์จากผู้ผลิตรายใหญ่ของมาเลเซียได้ ในช่วงที่ดีมานด์ลดลง จากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย นอกจากนี้สินค้าถุงมือยางเป็นสินค้าที่ราคาไม่สูง และแบรนด์ของสินค้าไม่ใช่ปัจจัยหลักๆในการเลือกใช้สินค้า จะยิ่งทำให้การแย่งส่วนแบ่งการตลาดเกิดขึ้นได้ง่ายมากขึ้น


อีกโอกาสก็คือ หากดีมานด์ของถุงมือยางยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตรายเล็กหลายรายในไทยที่ไม่สามารถขยายกำลังการผลิตได้ อาจต้องติดต่อเข้ามาให้ STGT ผลิตแบบ OEM ให้ เพราะไม่ต้องการลงทุนสร้างโรงงานใหม่ ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาว และมีความเสี่ยงหากดีมานด์หดตัวลงหลังโควิด-19


*** แล้วกำไรล่ะ จะเป็นยังไง ?


ทุกสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้น สุดท้ายกำไรสุทธิ ก็คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งด้วยคำสั่งซื้อล่วงหน้าที่เข้ามารอยาวไปถึงปี 64 - 65 ทำให้นักวิเคราะห์สามารถประเมินกำไรสุทธิออกมาได้อย่างชัดเจน บล.เคทีบี(ประเทศไทย) ประเมินว่า ในปี 2563 นี้ STGT จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,747 ล้านบาท เติบโต +806% YoY ขณะที่ปี 2564 กำไรสุทธิจะทำได้ 6,132 ล้านบาท เติบโต +6.7% YoY


ความผิดของ STGT ก็คือไม่สามารถฉายภาพออกมาได้ว่า หลังจากโควิด-19 จบลงทิศทางของธุรกิจจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะหากสื่อออกมาในแง่ดีจากการใช้วิกฤตในรอบนี้คว้าส่วนแบ่งตลาดจากเจ้าตลาดได้ก็จะทำให้อนาคตสดใสได้ไม่ยาก แต่ก็มีโอกาสมากเหมือนกันที่จะไม่เป็นไปตามนั้น ซึ่งสิ่งนี้เองที่ทำให้ราคาหุ้นจะดีดขึ้นไปแรงกว่านี้ได้ยากมาก แม้นักวิเคราะห์จะมองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันยังถูกอยู่ก็ตาม


เพราะหากอิงจากการเติบโตหลังจากโรคระบาดในช่วงที่ผ่านมาอย่าง ซาร์ส และ H1N1 ก็พอจะบอกได้ว่าถุงมือยางยังคงเติบโตได้ต่อเนื่องอยู่ เพียงแต่ว่าจะเติบโตในอัตราที่ไม่หวือหวา ซึ่งในขณะนั้น STGT ก็คงจะกลายเป็นหุ้นที่ขายผลิตภัณฑ์จากยางพาราที่หาได้ทั่วๆไปในตลาดหุ้นเท่านั้น

ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม


Let's block ads! (Why?)



"ลงไป" - Google News
September 03, 2020 at 01:43PM
https://ift.tt/31TrS01

STGT ราคาขนาดนี้...ยังถูกอยู่อีกเหรอ? - efinanceThai
"ลงไป" - Google News
https://ift.tt/2W5r8kp
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/2A5APrD

Bagikan Berita Ini

0 Response to "STGT ราคาขนาดนี้...ยังถูกอยู่อีกเหรอ? - efinanceThai"

Post a Comment

Powered by Blogger.