เมื่อวานในไลฟ์มันนีโค้ชพบประชาชน มีคนถามวิธีคิดของผม ที่ทำให้ผ่านปัญหาในช่วงวิกฤติปี 2540 มาได้
วันนี้หยิบมาเล่าให้ฟังอีกครั้ง อาจจะไม่มีหลักการอะไรเป็นแค่ประสบการณ์ส่วนตัว แต่เผื่อจะมีประโยชน์สำหรับคนที่กำลังเจอปัญหาครับ
1. มองโลกอย่างมี “ความหวัง” เสมอ
ช่วงปี 2540 จำได้ว่าเหนื่อยมาก หาเงินได้เท่าไหร่ก็ไม่พอใช้หนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่เคยปล่อยให้ขาด หรือหายไปจากตัวเลย ก็คือ “ความหวัง”
ผมไม่เคยหมดหวัง และเชื่อเสมอว่า ในทุกช่วงเวลาจะมีเรื่องดีๆ เรื่องใหม่ๆ รอเราอยู่เสมอ การคิดแบบมีความหวังจะทำให้เวลาเจอปัญหาหนักๆ เราจะมีพลังก๊อกสองก๊อกสาม ให้เข็นชีวิตไปได้ตลอด
ความหวัง สำคัญต่อการมีชีวิตอยู่มากนะครับ ดังนั้น อย่าละทิ้ง “ความหวัง” เด็ดขาด
2. พยายาม “มองหา” โอกาส อยู่เสมอ
คนที่ “มองหา” เท่านั้น ถึงจะ “มองเห็น” (โอกาส)
ผมเชื่อว่าหลายคนที่ไม่เห็นโอกาสในวิกฤติ เพราะหลายครั้งมัวแต่เอาความคิดไปจมกับความทุกข์ ให้เวลากับความทุกข์มากเกินไป หรือปิดโอกาสตัวเอง จนมอง
ไม่เห็นอะไร
วิธีเช็คง่ายๆ ว่าเรากำลัง “มองหา” โอกาสอยู่หรือเปล่าก็ให้ลองสังเกตการใช้เวลาในแต่ละวัน ตั้งแต่ตื่นเช้าจนถึงเข้านอน ว่าเราจัดสรรเวลาให้กับความทุกข์เยอะไปหรือเปล่า ให้เวลากับการหย่อนใจหรือสิ่งเปล่าประโยชน์มากไปหรือเปล่า หรือเราเองก็มีการแบ่งเวลาไปศึกษาหาความรู้ หาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ๆ สร้างทักษะใหม่ๆ อยู่บ้าง
“เวลา” ที่เราให้ในแต่ละเรื่อง ก็จะเป็นตัวชี้บอกว่า ชีวิตเราจมอยู่กับวิกฤติต่อ หรือค่อยๆ ก้าวผ่านไปสู่โอกาสใหม่ทีละน้อย ทั้งหมดเราเลือกได้เองครับ
3. “เริ่ม” ให้ง่าย พยายาม “ลอง” ทุกอย่างที่คิดออก
อันนี้เป็นหัวใจสำคัญข้อหนึ่งเลย เพราะแม้จะเห็นโอกาสแต่ไม่คว้าไว้ ไม่ทำอะไร ชีวิตก็เป็นแบบเดิมนั่นแหละ
หลักคิดสำคัญ ก็คือ ถ้าคิดว่าเป็นโอกาสที่พอเป็นไปได้จงเริ่มให้ง่าย เริ่มให้เร็ว
ตอนเกิดวิกฤติ ผมอยากหารายได้เสริมจากการแปล ผมหาอีเมลติดต่อ บก.ซีเอ็ดเลย ผมอยากขายของ ผมโทรหาเพื่อนที่ผลิตสินค้า ตกลงขอสินค้ามันมาขายเลย ผมอยากเริ่มงานที่ปรึกษา ผมโทรติดต่อบริษัทคู่ค้า ขอเข้าไปทำงานให้เลย ผมอยากรู้ว่าอสังหาฯ ลงทุนยังไง ผมเสิร์ชกูเกิ้ลหาทรัพย์ แล้วโทรหาโบรกเกอร์ลงไปดูพื้นที่เลย ฯลฯ
หลายเรื่องไม่ได้ใช้ต้นทุนที่เป็นเงินเยอะ แต่ใช้ต้นทุนความ “กล้า” และพลัง “การตัดสินใจ” มากกว่า
ที่สำคัญ เมื่อเริ่มทำอะไร อย่าไปเล็งผลเลิศ เพราะเวลาเราริเริ่ม “ลอง” (WRONG) ทำอะไร เรามีโอกาสผิดพลาด หรือล้มเหลวได้มากอยู่แล้ว แต่จะเป็นอะไรหละ ถ้าเราไม่ได้ลงทุนเงินเยอะ ก็เริ่มใหม่ ทำใหม่
ดีกว่ามานั่งคิด “ทำอันนี้แล้วได้แค่ พันสองพัน ไม่น่าจะพอ ทำไปก็เหนื่อยเปล่า” ถ้ายังคิดอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ทำไปก่อน
“การเดินทางหมื่นลี้ ต้องมีก้าวแรก ทุกความสำเร็จที่อยู่ไกล เริ่มต้นจากขยับตีนก้าวออกจากจุดเดิมๆ”
4. เปิด “ประตู” แห่งโอกาสไปเรื่อยๆ
แม้จะใช้คำว่า “ลอง” แต่เวลาทำ ทำให้เต็มที่ มองมันเป็นประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ที่จะพาเราไปสู่โอกาสใหม่ไปเรื่อยๆ
จำไว้ว่า “โอกาสมากับผู้คน” เมื่อเราเจอคนใหม่ๆ ได้คุยได้ร่วมงาน ได้ทำงานด้วย เดี๋ยวก็จะเห็นช่องทางใหม่ๆ ที่จะต่อยอดสิ่งที่เราทำ ความร่วมมือใหม่ๆ ที่จะทำให้เรามีความก้าวหน้ามากขึ้น เติบโตขึ้น รวมไปถึงสร้างรายได้ที่มากขึ้น
ตอนเริ่มแปลงานพ่อรวยสอนลูก ผมไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า อยากเล่าเรื่องนี้ให้คนวงกว้างฟัง อยากได้เงินค่าจ้างพอช่วยให้ผมจัดการปัญหา แต่จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ นั้นก็สร้างโอกาสต่อเนื่องให้ผมได้มาทำงานตรงนี้
ทั้งหมดนี้ คือ หลักคิดส่วนตัวของผมนะครับ ไม่ได้เป็นกฎหรือเคล็ดลับอะไร เล่าให้ฟังเผื่อจะนำไปปรับใช้กันได้ครับ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤติกันนะครับ
#TheMoneyCoachTH
"มองเห็นได้" - Google News
June 28, 2020 at 06:00AM
https://ift.tt/38bskZ8
คอลัมน์โลกธุรกิจ - พาชีวิตผ่านวิกฤติการเงิน ด้วยวิธีคิดที่ถูกต้อง - หนังสือพิมพ์แนวหน้า
"มองเห็นได้" - Google News
https://ift.tt/2KEOqs2
Mesir News Info
Israel News info
Taiwan News Info
Vietnam News and Info
Japan News and Info Update
https://ift.tt/2A5APrD
Bagikan Berita Ini
0 Response to "คอลัมน์โลกธุรกิจ - พาชีวิตผ่านวิกฤติการเงิน ด้วยวิธีคิดที่ถูกต้อง - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"
Post a Comment