JMART เปลี่ยนไปแค่ไหน..หลังเข้าสู่ธุรกิจการเงินเต็มตัว! - efinanceThai

taiso.prelol.com

หุ้นเด่นวันนี้

27 เมษายน 2563 | 13:40

ระยะนี้ JMART ปรับตัวขึ้นได้อย่างโดดเด่นสวนทางตลาด หลังจากที่เปิดโอกาสให้ "KB Kookmin" บริษัทการเงินชั้นนำจากเกาหลีใต้เข้าร่วมทุนกับ 'เจ ฟินเทค' ในสัดส่วนถึง 51% แม้สถานะจะเท่ากับว่าเสียบริษัทย่อยให้พันธมิตร แต่ศักยภาพการเติบโตระยะยาวก็อาจสูงมาก ต้องจับตาแนวโน้มจะเป็นอย่างไรต่อไป! 

*** ประกาศร่วมทุน "KB Kookmin" ดันราคาหุ้นขึ้นมาแล้ว 26%

ราคาหุ้นของ บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART นับว่าปรับตัวขึ้นมาแรงมากในช่วงนี้ โดยทำจุดสูงสุดวันนี้ไปที่ 8.50 บาท นับเป็นเพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันที่ 22 เม.ย.63 ซึ่งเป็นช่วงก่อนประกาศร่วมทุนที่ 6.75 บาท มากถึง 26% ขณะที่ช่วงเช้าวันนี้ปิดตลาดไปที่ 8.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +6.41% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 131.17% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า

สาเหตุที่ราคาพุ่งก็คือ เมื่อวันที่ 23 เม.ย.63 JMART ได้ประกาศว่าบริษัทย่อย 'เจ ฟินเทค(J Fintech)' ได้เข้าร่วมทุนกับ KB Kookmin Card Co., Ltd  ผู้นำธุรกิจการเงินของเกาหลีใต้ ซึ่งให้บริการบัตรเครดิต สินเชื่อ ลิสซิ่ง และบริการอื่นๆ ด้วยการเพิ่มทุน เจ ฟินเทค ให้ KB Kookmin เข้าถือหุ้น สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ธุรกิจการเงินของกลุ่ม JMART ทันที

*** 'เจ ฟินเทค' อาจเหลือสถานะแค่บริษัทร่วม

ทั้งนี้ กระบวนการร่วมทุนโดย เจ ฟินเทค จะลดทุน 1.22 พันล้านบาท มาเหลือ 556 ล้านบาท และจะนำเงินไปล้างขาดทุนสะสม ก่อนออกหุ้นเพิ่มทุนด้วยการออกหุ้นสามัญ 53.36 ล้านหุ้น และออกหุ้นบุริมสิทธิ์ 2.27 ล้านหุ้น หุ้นละ 11.68 บาท ให้ KB Kookmin เข้าซื้อหุ้น ดังนั้นหลังจากกระบวนการเสร็จสิ้น JMART จะสูญเสีย เจ ฟินเทค กลายเป็นบริษัทร่วม เพราะสัดส่วนถือหุ้นเหลือ 49.99% ส่วน KB Kookmin จะเข้ามาเป็นเจ้าของด้วยสัดส่วนถือหุ้น 51% แทน

*** ร่วมทุนพันธมิตรช่วยหนุนศักยภาพ'ธุรกิจการเงิน' อย่างมาก

บล.เอเซีย พลัส ระบุไว้ว่า การเปิดทางร่วมทุนครั้งนี้จะส่งผลบวกต่อ JMART หลายประการดังนี้

1.ช่วยให้งบดุลมีความแข็งแรงมากขึ้น : จากการที่ เจ ฟินเทค สามารถหาเงินทุนราวมาคืนให้กับ JMART และ JMT ที่ปัจจุบันจัดหาให้ราว 3 พันล้านบาท ซึ่งจะทำให้สัดส่วนหนี้สืนต่อทุน(D/E)จากสิ้นปี 62 ที่ 3.8 เท่า ลงมาอยู่ที่ราว 3 เท่า

2.โอกาสเติบโตดีขึ้น : เจ ฟินเทค จะมีโอกาสเติบโตดีขึ้น เนื่องจาก KB จะเข้ามาสนับสนุนการเติบโตในระยะยาวผ่านความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจการเงิน ซึ่งมีโอกาสที่ JMART จะขยายธุรกิจไปสู่บัตรเครดิตด้วย

3.ฐานทุนพันธมิตรแกร่ง : KB มีฐานทุนที่แข็งแกร่งมาก จากฐานสินทรัพย์ราว 6.2 แสนล้านบาท และกำไรปีละ 8.5 พันล้านบาท ซึ่งพร้อมจะสนับสนุน เพราะมีกลยุทธ์ในการขยายตัวมาสู่ตลาดอาเซียนอยู่แล้ว ทั้งธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต และสินเชื่อสำหรับบริษัทเกาหลีใต้ที่ออกมาลงทุนนอกประเทศ

*** กูรูชี้ดีลเป็นบวก  ดันราคาเหมาะสมทะยานไม่ต่ำกว่า 10 บาท

บล.เอเซีย พลัส ระบุต่อว่า จากการร่วมทุนดังกล่าว มองว่า ราคาหุ้นมีอัพไซด์เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างปรับประมาณมาณการขึ้น โดยมีราคาเหมาะสมขณะนี้อยู่ที่ 11.6 บาท แม้จะรวมผลกระทบจากโควิด-19 เข้าไปแล้ว 

อย่างไรก็ดีอาจยังคาดหวังผลกำไรในระยะสั้นไม่ได้ เพราะการร่วมทุนจะเริ่มส่งผลในปี 64 ดังนั้นด้วยการถือหุ้นใน เจ ฟินเทค ที่ลดลงรวมถึงผลกระทบจากโควิด -19 ต่อธุรกิจมือถือ พื้นที่เช่า จึงทำให้มี Downside 30% แต่หากผลประโยชน์เกิดขึ้นได้เร็วกว่าคาด เช่น การรีไฟแนนซ์เงินทุนของ เจ ฟินเทค จะช่วยลดความเสี่ยงในขาลงไปได้

*** ผู้บริหารยันกำไรปีนี้ยังโต 25% รับต้นทุนลด-รายได้โต

อย่างไรก็ดีแม้นักวิเคราะห์จะยกสถานการณ์โควิด-19ขึ้นมาเป็นความเสี่ยงแต่ผู้บริหาร JMART กลับมองว่า ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ธุรกิจจะเริ่มกลับมาฟื้นตัว ประกอบกับเป็นช่วงที่ต้นทุนการเงินต่ำ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นจะต้องปรับแผนธุรกิจ และยืนยันว่ากำไรปีนี้จะยังเติบโตถึง 25% จากปีก่อน ตามต้นทุนทางการเงินที่ลดลง 1 - 2% และรายได้เติบโตขึ้น 10%

การดึงบริษัทธุรกิจการเงินรายใหญ่จากเกาหลีใต้เข้ามาร่วมทุนด้วยสัดส่วนเช่นนี้ ก็ถือเป็นการประกาศลุยธุรกิจการเงินแบบเต็มตัว แม้ที่ผ่านมามูลค่าบริษัทของ JMART ส่วนใหญ่จะมาจาก JMT ซึ่งเป็นธุรกิจการเงินอยู่แล้วก็ตาม ด้วยพื้นฐานจึงสามารถเดินบนเส้นทางธุรกิจการเงินได้อย่างหายห่วง แต่ความจริงจังของพันธมิตรรายนี้ต่างหากคือเรื่องที่ต้องจับตา!

ข่าวหุ้นอื่นๆที่น่าสนใจ

RECOMMENDED NEWS

ข่าวหุ้นยอดนิยม

Let's block ads! (Why?)

"ลงไป" - Google News
April 27, 2020 at 01:40PM
https://ift.tt/2W1NDqf

JMART เปลี่ยนไปแค่ไหน..หลังเข้าสู่ธุรกิจการเงินเต็มตัว! - efinanceThai
"ลงไป" - Google News
https://ift.tt/2W5r8kp


Bagikan Berita Ini